เปิด 5 อันดับ อสังหาฯทำเลทอง กทม. 2025
ปี 2025 ตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ ยังคงมีโอกาสเติบโตในบางทำเล แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะมีความท้าทาย แต่พื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม การเดินทางสะดวก และมีโอกาสสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า ยังคงถูกมองว่าเป็น อสังหาฯทำเลทอง
บทความนี้ Horganice จะพาไปเจาะลึก 5 อันดับทำเลมาแรง ในกรุงเทพฯ ได้แก่ เขตวัฒนา, เขตจตุจักร, เขตประเวศ, เขตคลองเตย และเขตห้วยขวาง พร้อมวิเคราะห์ศักยภาพการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
1. เขตวัฒนา อสังหาฯทำเลทอง แหล่งไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม
จุดเด่นของทำเล
- เป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ครบวงจร
- รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง, คาเฟ่, และร้านอาหารระดับไฮเอนด์
- การเดินทางสะดวกด้วย BTS และ MRT ครอบคลุมหลายสถานี เช่น ทองหล่อ เอกมัย พร้อมพงษ์
โอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า
- ความต้องการเช่าสูงจากชาวต่างชาติและคนทำงานบริษัทข้ามชาติ
- ค่าเช่าเฉลี่ยสูง เหมาะสำหรับคอนโดระดับกลาง – บน และอพาร์ทเมนท์หรู
- ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) อยู่ราว 4 – 6% ต่อปี
คำแนะนำ
- เลือกอสังหาฯ ใกล้ BTS / MRT เพื่อความสะดวก
- ลงทุนในโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้เช่าพรีเมียม
2. เขตจตุจักร ศูนย์กลางการเดินทางและค้าขาย
จุดเด่นของทำเล
- มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่และตลาดนัดจตุจักรที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- ใกล้สถานีขนส่งหมอชิต และเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT
- ราคาที่ดินและอสังหาฯ ยังไม่สูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโต
โอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า
- เหมาะสำหรับอพาร์ทเมนท์และคอนโดขนาดกลาง–เล็ก ที่รองรับกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน
- มีความต้องการเช่าจากผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองและต้องการความสะดวกในการเดินทาง
คำแนะนำ
- เลือกอสังหาฯ ที่อยู่ในรัศมีเดินถึง MRT/BTS
- ลงทุนในห้องขนาด 1 ห้องนอน เพื่อควบคุมต้นทุนและปล่อยเช่าได้ง่าย
3. เขตประเวศ ดาวรุ่งฝั่งตะวันออก
จุดเด่นของทำเล
- ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม
- พื้นที่ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด Low – rise
- สิ่งแวดล้อมเงียบสงบ เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขวาง
โอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า
- ความต้องการเช่าจากบุคลากรสายการบิน และพนักงานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมใกล้เคียง
- ค่าเช่าไม่สูงมาก แต่มีความเสถียรและโอกาสปล่อยเช่าได้ต่อเนื่อง
คำแนะนำ
- ลงทุนในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมให้เช่า เพื่อดึงดูดกลุ่มครอบครัว
- เน้นการตกแต่งพร้อมอยู่ เพื่อสร้างความต่างจากคู่แข่ง
4. เขตคลองเตย ทำเลติดแม่น้ำและศูนย์กลางธุรกิจ
จุดเด่นของทำเล
- ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และแหล่งงานขนาดใหญ่
- มีทั้งพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และย่านสุขุมวิทตอนต้นที่มีศักยภาพสูง
- การพัฒนาโครงการ Mixed – use และคอนโดหรูเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า
- กลุ่มลูกค้าหลักคือชาวต่างชาติ พนักงานบริษัท และผู้บริหาร
- ผลตอบแทนการปล่อยเช่าดี โดยเฉพาะโครงการติดแม่น้ำหรือใกล้รถไฟฟ้า
- เหมาะกับคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์
คำแนะนำ
- เน้นโครงการที่มีวิวแม่น้ำหรือใกล้ BTS/MRT
- ลงทุนในอสังหาฯ ที่มีแบรนด์น่าเชื่อถือเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
5. เขตห้วยขวาง แหล่งรวมคอนโดและธุรกิจบันเทิง
จุดเด่นของทำเล
- ใกล้ย่านพระราม 9 ซึ่งเป็น New CBD ของกรุงเทพฯ
- มีสถานบันเทิง ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย
- รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินครอบคลุมพื้นที่ ทำให้การเดินทางสะดวกมาก
โอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า
- ความต้องการเช่าสูงจากคนทำงานในโซน CBD และชาวต่างชาติ
- ค่าเช่าในระดับกลาง – สูง เหมาะกับคอนโดมิเนียมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
คำแนะนำ
- เลือกโครงการที่อยู่ในรัศมี 500 เมตรจาก MRT
- เน้นตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ เพื่อปล่อยเช่าได้เร็ว
การวิเคราะห์ภาพรวม
จากการสำรวจพบว่า ทั้ง 5 เขตนี้มีปัจจัยร่วมที่ทำให้เป็น อสังหาฯทำเลทอง ในปี 2025 ได้แก่
- การเดินทางสะดวกด้วยระบบราง
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล
- ความต้องการเช่าสูงจากกลุ่มคนทำงานและชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในแต่ละทำเลต้องพิจารณากลุ่มเป้าหมาย ราคาอสังหาฯ และความคุ้มค่าของผลตอบแทน
กลยุทธ์สำหรับผู้ลงทุนอสังหาฯปล่อยเช่า
- ศึกษาตลาดเชิงลึก วิเคราะห์ Demand-Supply ในทำเลเป้าหมายก่อนตัดสินใจ
- เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับกลุ่มผู้เช่า เช่น คอนโดขนาดเล็กในทำเล CBD หรือบ้านเดี่ยวในโซนชานเมือง
- ใช้ระบบบริหารจัดการหอพัก เช่น Horganice เพื่อลดเวลาการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่าย
- สร้างความแตกต่าง ทั้งด้านการตกแต่ง บริการเสริม และการตลาดออนไลน์
ปี 2025 แม้เศรษฐกิจและกำลังซื้ออาจไม่สดใสนัก แต่ทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ โดยเฉพาะในเขตวัฒนา จตุจักร ประเวศ คลองเตย และห้วยขวาง การเลือกสินทรัพย์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
อ้างอิง: marketthink และ thansettakij