แม้จะเรียกว่า “วันหยุด” แต่สำหรับเจ้าของหอพักจำนวนไม่น้อย วันหยุดกลับไม่เคยเป็นวันที่ได้หยุดจริงเพราะธุรกิจหอพักเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ “ไม่เคยปิด” ไม่ว่าจะเป็นเสาร์–อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือเทศกาลยาว 3–5 วัน ระบบต่างๆ ยังคงเดินต่อ ผู้เช่าอาศัยอยู่ในพื้นที่เหมือนเดิม และปัญหาก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกกันในวงการว่า
“วันหยุดที่ไม่ได้หยุดของเจ้าของหอพัก”
และกำลังกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของตลาดปล่อยเช่าในปี 2568

วันหยุด คือ วันที่งานหลังบ้านหนักกว่าเดิม

จากการเก็บข้อมูลเจ้าของหอพักหลายราย พบว่า วันหยุดยาวมักจะเป็นช่วงที่งานเพิ่มขึ้นมากกว่าวันทำงานจริง เนื่องจาก

1.ยอดแจ้งซ่อมพุ่งขึ้น กว่าเดิม

เพราะผู้เช่าอยู่ห้องมากขึ้น ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าตลอดวันปัญหาที่พบมากคือ

  • ไฟฟ้าตก
  • น้ำไม่ไหล
  • ประตูเปิด–ปิดผิดปกติ
  • เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย

ในหลายหอพัก เจ้าของต้องลงมาดูด้วยตัวเองเพราะช่างไม่ว่างช่วงวันหยุด

2.ข้อความ–แชทผู้เช่าเพิ่มเป็นสองเท่า

จากประสบการณ์ของหอพักขนาดกลาง ผู้เช่าแจ้งเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น เช่น

  • ขอสอบถามยอดค่าเช่า
  • แจ้งซ่อม
  • ขอเปลี่ยนห้อง
  • ขอเลื่อนวันจ่าย

เจ้าของหอพักรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า “เสาร์–อาทิตย์คือวันที่ต้องตอบแชทเกือบทั้งวัน ไม่ตอบไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าไม่ดูแล”

3.ผู้เช่าย้ายเข้า–ย้ายออกมากที่สุดในรอบสัปดาห์

วันหยุดคือวันที่ผู้เช่าสะดวกขนของ ส่งผลให้

  • มีการคืนห้อง
  • การย้ายเข้าใหม่
  • การตรวจเช็กสภาพห้อง
  • การทำสัญญา

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเฉลี่ย 20–40 นาทีต่อห้อง หากมี 3–5 ห้องในวันเดียว เจ้าของแทบไม่ได้พักเลย

เจ้าของหอพักกำลังเผชิญ “ความคาดหวัง” ที่สูงขึ้น

วันหยุดไม่ใช่เพียงวันที่งานมากขึ้น แต่เป็นวันที่สะท้อนว่าผู้เช่ามีความคาดหวังต่อการบริการสูงขึ้นกว่าเดิมมาก

• ต้องการตอบแชทเร็ว

การปล่อยให้อ่านนานเกิน 30–60 นาที อาจทำให้ผู้เช่าหงุดหงิดทันที

• ต้องการความโปร่งใสเรื่องค่าใช้จ่าย

โดยเฉพาะช่วงปลายเดือน–ต้นเดือน ผู้เช่าจะถามบิลมากขึ้น

• ต้องการระบบแจ้งซ่อมที่ติดตามได้

ผู้เช่ารุ่นใหม่ไม่อยากโทร พวกเขาต้องการ “สถานะอัปเดต”

นี่คือภาพจริงที่เจ้าของหอพักต้องเจอทุกสัปดาห์ แม้ในวันที่ควรจะได้พักผ่อน

ทำไม “วันหยุดที่ไม่ได้หยุด” จึงมากขึ้นในปี 2568?

1.รูปแบบการทำงาน เรียนเปลี่ยนไป

Work from Home และ Hybrid ทำให้ผู้เช่าอยู่ห้องนานขึ้น ปัญหาจึงเกิดบ่อยขึ้นตามสัดส่วนการใช้งานจริง

2.ผู้เช่าเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น

อ่านรีวิว, เช็กค่าใช้จ่าย, เปรียบเทียบหลายหอ ทำให้ความคาดหวังสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ

3.แรงงานช่างคุณภาพขาดแคลนในหลายจังหวัด

วันหยุดหา “ช่างว่าง” ยากกว่าเดิมหลายเท่า เจ้าของต้องแก้ปัญหาเบื้องต้นเองก่อน

4.จำนวนผู้เช่าติดต่อผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น

แปลว่าเจ้าของต้องพร้อมตอบคำถามมากขึ้น แม้ในวันหยุด

เจ้าของหอพักรับมืออย่างไรให้ไม่เหนื่อยเกินไป?

แม้วันหยุดจะยังเป็น “วันทำงาน” แต่เจ้าของหอพักจำนวนมากเริ่มปรับรูปแบบการบริหารเพื่อไม่ให้ภาระหนักจนเกินไป เช่น:

• จัดระบบเก็บบิล–ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

ลดงานสิ้นเดือนที่มักชนกับวันหยุด

• ใช้ระบบแจ้งซ่อมที่เก็บหลักฐานและสถานะชัดเจน

เพื่อไม่ต้องตอบคำถามซ้ำ ๆ ทั้งวัน

• ทำข้อมูลผู้เช่ารวบรวมอยู่ในที่เดียว

ช่วยให้ตอบคำถามได้เร็ว ไม่ต้องค้นหาเอกสาร

• ใช้ระบบเก็บข้อมูลหลังบ้านแบบเรียลไทม์

ช่วยให้รู้ทันปัญหาก่อนผู้เช่าแจ้ง

เจ้าของบางรายแบ่งงานกับผู้ดูแล โดยให้มี “กะวันหยุด” แบบยืดหยุ่น เพื่อไม่ให้คนใดคนหนึ่งเหนื่อยเกินไป

วันหยุดอาจไม่ใช่วันหยุดจริง แต่ทำให้เราเข้าใจการบริหารหอพักดีขึ้น

ธุรกิจหอพักไม่ใช่ธุรกิจที่หยุดได้ เพราะคนอาศัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
แต่วันหยุดที่ไม่ได้หยุดเหล่านี้กำลังสะท้อนว่าปี 2568 เป็นปีที่เจ้าของหอพักต้อง “ทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น” เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เผาผลาญพลังงานเจ้าของมากเกินไประบบหลังบ้านที่ดีไม่ได้มีไว้เพื่อความหรูหรา แต่เพื่อให้เจ้าของ “มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น” แม้ในวันที่ควรจะเป็นวันพักผ่อน

Share via