นอกจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย – กัมพูชา เศรษฐกิจไทยยังต้องรับมือกับอีกหนึ่งตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง นั่นก็คือ การเรียกเก็บ ภาษีทรัมป์ (ภาษีจากสหรัฐฯ)
วันที่ 1 ส.ค. 2568 สหรัฐอเมริกาได้ประกาศการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 19% โดยมีผลหลังประกาศใน 7 วัน กับ 69 คู่หูทางการค้า
โดยประเด็นสำคัญมี ดังนี้
ทรัมป์ประกาศภาษีนำเข้าใหม่จากสหรัฐฯ ต่อไทย
- โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 19% เริ่มมีผล ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2568
- สินค้าที่ส่งออกไปถึงสหรัฐฯ ก่อน 7 ส.ค. ยังคงถูกเก็บภาษีเดิม 10%
- หาก ส่งออกหลังวันที่ 7 ส.ค. จะต้องเสียภาษีใหม่ 19%
- หากตรวจพบการสวมสิทธิ์จะมีการเรียกเก็บในอัตราสูงถึง 40%
ท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการประกาศเก็บ ภาษีทรัมป์
- นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เผยว่า เป็น “สัญญาณชัดเจน” ที่ช่วยให้ไทยสามารถวางแผนรับมือได้
- แต่การเจรจากับสหรัฐยังไม่สิ้นสุด ยังต้องหารือในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น การเปิดตลาดสินค้าให้กันและกัน และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non – Tariff)
รายละเอียดการเจรจาระหว่างไทย – สหรัฐฯ
- แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลัก:
- การกำหนดอัตราภาษีสินค้า
- สินค้านำเข้า – ส่งออก ระหว่างไทยและสหรัฐฯ
- แผนการลงทุนระหว่างสองประเทศ
- มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (เช่น ขั้นตอนพิธีการ)
ในส่วนของสินค้าเกษตร และสินค้าอื่นที่ไทยอาจเปิดตลาด
- ไทยเตรียมเปิดตลาดเนื้อหมูจากสหรัฐฯ แต่ยังคงจำกัดแค่ <1% ของการบริโภคภายในประเทศ
- เตรียมนำเข้าถั่วเหลือง 1 – 2 ล้านตัน คล้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
- มีแผนซื้อเครื่องบินจากสหรัฐ 80 – 90 ลำ ภายใน 10 ปี
- อาจนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐประมาณ 10% ของการใช้งานทั้งหมด หากเงื่อนไขเหมาะสม
- การป้องกันสินค้า “หลบภาษี” ผ่านไทย รัฐบาลเตรียมตรวจเข้มสินค้าราคาถูกจากประเทศที่สามที่อาจ “ผ่านไทย” เพื่อส่งต่อสหรัฐ โดยไม่เป็น Local Content หรือไม่เกิดการจ้างงาน
ผลต่อเศรษฐกิจและแผนรับมือ
- GDP ไทยอาจเติบโตได้เกิน 2.2% หากบริหารต้นทุนและศักยภาพการแข่งขันได้ดี
- รัฐบาลเตรียมงบกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อ:
- สนับสนุนการจ้างงาน
- ปรับปรุงสายการผลิต
- ช่วยภาคเอกชนรับมือภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น
- ภาคเอกชนจะต้องประเมินผลกระทบ แล้วเสนอแนวทางเยียวยากลับมาที่กระทรวงการคลัง
Horganice วิเคราะห์เพิ่มเติม:
- แม้จะดูเป็น “ภาษีตอบโต้” แต่รัฐบาลไทยมองว่าเป็นโอกาสในการเร่งสร้างขีดความสามารถทางการค้า
- การที่ไทยยอมเปิดบางตลาดให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น หมู ถั่วเหลือง เครื่องบิน อาจเป็นการ “แลกเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์” เพื่อลดแรงกดดันจากภาษีใหม่
- ทั้งนี้ยังต้องจับตาผลกระทบต่อ ภาคส่งออก และการ ตัดสินใจลงทุนของต่างชาติ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้
ในส่วนของผลกระทบในภาคตลาดอสังหาฯ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2568 กฎหมายภาษีใหม่ของทรัมป์ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แต่ส่งผลทางอ้อมผ่าน
- การเปลี่ยนแปลงในระบบภาษีของสหรัฐฯ ช่วยลดความเสี่ยงต่อนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนสหรัฐฯ ที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย
- ความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทจากนโยบายภาษีและศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความผันแปรของค่าเงิน ทำให้ต้นทุนของวัสดุก่อสร้างในไทยเพิ่มขึ้น 3 – 5%
- ทำให้นักลงทุนอาจเกิดการย้ายฐานการผลิตมายังภูมิภาค ASEAN ทำให้อาจเพิ่มความต้องการอสังหาฯ ด้านโลจิสติกส์ โรงงาน หรือสำนักงานระดับภูมิภาคอุตสาหกรรม
อ้างอิง: PPTVhd36.com