Horganice News ติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ศูนย์วิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMB Thai) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2568 เสี่ยง “โตช้าลง” สาเหตุหลักจาก ความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่นายกรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เป็นการสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม
แนวโน้มเศรษฐกิจ
- คาดว่า GDP ปี 2568 จะโตเพียง 1.8% (แม้ธปท. จะประเมินไว้ที่ 2.3%)และหากสถานการณ์เลวร้าย เช่น การเมืองยืดเยื้อ – GDP อาจต่ำสุดที่ 1.4% แต่หากหากส่งออกฟื้น การเมืองนิ่ง และน้ำมันลดราคา – GDP อาจโตได้ สูงสุด 2.3%
ปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตช้าลง
- การเมืองไม่แน่นอน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนลดลง
- การส่งออก มีแนวโน้มหดตัวใน ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จากเศรษฐกิจโลกซบเซา
- ภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ผู้ซื้อกังวลเรื่องตึกสูง ทำให้โครงการใหม่ชะลอตัว
- กำลังซื้ออ่อน ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์และตลาดรถมือสอง
- การบริโภคภายในประเทศชะลอ
- การท่องเที่ยวไม่ฟื้นเต็มที่ นักท่องเที่ยวจีนหายกว่า 33%
- ดอกเบี้ยสูง – เงินบาทแข็ง กระทบผู้ส่งออกและผู้กู้ในประเทศ
อสังหาริมทรัพย์ ซบเซาหนัก
- คอนโดฯ หยุดชะงัก ปัญหาความเชื่อมั่น สภาพคล่อง สินเชื่อ
- บ้านแนวราบ หดตัวจากดีมานด์ที่ลดลงตั้งแต่ปลายปี 2567
- แต่โอกาสการลงทุนคอนโดแนวรถไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 3 – 5 ล้าน ยังพอมีโอกาสรอด
ตลาดยานยนต์แผ่ว ยอดขายลดลง
- ยอดขายรถใหม่ปีนี้คาดอยู่ที่ 530,000 คัน ลดลงจากปีก่อน
- รถยนต์ EV มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 14% (จากปีก่อน 12%)
- ตลาดมือสองยังพอเติบโตจากคนรายได้น้อยที่หันมาซื้อรถมือสองอายุไม่เกิน 5 ปี
การท่องเที่ยว ฟื้นได้ไม่เต็มที่
- คาดการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีอยู่ 34.5 ล้านคน (ลดจาก 35.5 ล้าน)
- รายได้ท่องเที่ยวไม่ฟื้นส่งผลกระทบกับโรงแรม ร้านอาหาร และขนส่ง
- จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด กรุงเทพฯ, พัทยา, เชียงใหม่
- คาดการณ์ของกลุ่มโรงแรม 3 ดาวหรือโรงแรมราคาประหยัด ยังพอมีโอกาสเติบโต
- คาดการณ์แนวทางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ควรเพิ่มความปลอดภัย, ลดข้อจำกัดวีซ่า, และเปิดเส้นทางบินใหม่
แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย & ค่าเงินบาท
- คาด กนง. อาจลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง เหลือ 1.25% ภายในสิ้นปีนี้
- ค่าเงินบาทคาดอยู่ที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงสิ้นปี
สรุปภาพรวมเศษฐกิจไทยจาก ธนาคาร CIMB
หากไทยเราไม่เร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง จะเสี่ยงโตต่ำต่อเนื่องในไปจนถึงปีหน้าและสูญเสียความน่าสนใจและโอกาสในการลงทุนจากต่างชาติ
สิ่งที่รัฐบาลควรเร่ง คือ ฟื้นความเชื่อมั่นทางการเมือง, กระตุ้นการใช้จ่ายอย่างมีเป้าหมาย, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและลดข้อจำกัดทางธุรกิจ อีกทั้งควรเร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคอสังหาฯ, การท่องเที่ยว และการส่งออก เพื่อให้เศรษฐกิจไทนกลับมาฟื้นตัว
ที่มา: ThaiPBS