ในยุคที่เงินเฟ้อกำลังกดดันเศรษฐกิจโลกในปี 2025 หลายนักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่าการลงทุนใน ธุรกิจอสังหาฯ ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหรือไม่ เป็นหลายคำถามที่นักลงทุนรวมถึงนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายคนสงสัย และเมื่อวิเคราะห์แบบลงลึกก็จะพบว่าธุรกิจอสังหาฯ ยังคงมีจุดแข็งที่โดดเด่นและสามารถรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายนี้ได้
1. อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อที่แท้จริง
การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ตามเงินเฟ้อ
- อสังหาริมทรัพย์มีลักษณะเป็น Hard Asset ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้าทั่วไป เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ต้นทุนการก่อสร้างและราคาที่ดินก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้อสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่แล้วมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตาม
ความยืดหยุ่นในการปรับค่าเช่า
- เจ้าของอสังหาริมทรัพย์สามารถปรับค่าเช่าให้สูงขึ้นเพื่อชดเชยการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อได้ ทำให้รายได้จากการให้เช่ายังคงมีอำนาจการซื้อที่แท้จริง แตกต่างจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนคงที่
2. ความต้องการที่ไม่หยุดนิ่ง
ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
- ที่อยู่อาศัยเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่ไม่หายไปแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ผู้คนยังคงต้องการที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือเช่า ทำให้ธุรกิจอสังหาฯ มีฐานลูกค้าที่มั่นคง
การขยายตัวของประชากรเมือง
- แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่แนวโน้มการย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมืองยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่จึงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
3. ความได้เปรียบจากการกู้เงิน
ผลกระทบเชิงบวกของหนี้ในยุคเงินเฟ้อ
- เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มูลค่าที่แท้จริงของหนี้สินจะลดลง นักลงทุนอสังหาฯ ที่ใช้เงินกู้จะได้รับประโยชน์จากการที่ต้องชำระหนี้ด้วยเงินที่มีอำนาจซื้อน้อยลง ในขณะที่สินทรัพย์ที่ถือครองมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
อัตราดอกเบี้ยคงที่
- หากนักลงทุนได้ล็อกอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำก่อนเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จะได้รับประโยชน์จากการจ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อจริง
4. ความหลากหลายของรูปแบบการลงทุน
Real Estate Investment Trusts (REITs)
- สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนในอสังหาฯ โดยตรง การลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่ดี ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนโดยตรง
พัฒนาเทคโนโลยี PropTech
- การนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจอสังหาฯ ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างรายได้ใหม่ ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
5. ปัจจัยสนับสนุนในปี 2025
นโยบายการเงินที่ยืดหยุ่น
- แม้ว่าธนาคารกลางหลายประเทศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นในการปรับลดเมื่อเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ต้นทุนการเงินไม่สูงเกินไป
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงาน
- แนวโน้มการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานจากที่บ้านที่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงโควิด – 19 กำลังสร้างความต้องการใหม่ในตลาดอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ทำงาน หรือพื้นที่สำนักงานขนาดเล็กที่กระจายตัว
6. ความเสี่ยงที่ควรพิจารณา
ความผันผวนในระยะสั้น
- แม้ว่าอสังหาฯ จะเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนได้ โดยเฉพาะเมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง
ความต้องการเงินสดสูง
- การลงทุนในอสังหาฯ ต้องใช้เงินสดจำนวนมาก และมีสภาพคล่องต่ำกว่าการลงทุนในตราสารอื่น จึงต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
7. กลยุทธ์การลงทุนอสังหาที่แนะนำ
เลือกทำเลที่มีศักยภาพ
- ควรเลือกลงทุนในพื้นที่ที่มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีการเติบโตของประชากร และมีปัจจัยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
การกระจายความเสี่ยง
- ไม่ควรลงทุนเฉพาะประเภทอสังหาฯ ชนิดเดียว แต่ควรกระจายไปยังที่อยู่อาศัย สำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงงานอุตสาหกรรม
การใช้เทคโนโลยี
- ควรใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ เช่น ระบบจัดการอาคาร ระบบการจ่ายเงิน และแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจในยุคเงินเฟ้อ 2025 เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็น Inflation Hedge ที่ดี มีความต้องการที่ไม่หยุดนิ่ง และสามารถสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องมีความเข้าใจในความเสี่ยงและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการเลือกทำเลที่เหมาะสม การกระจายความเสี่ยง และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การลงทุนในอสังหาฯ ในยุคนี้ต้องการการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่สำหรับผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งและป้องกันผลกระทบจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ